1.บทนำ

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด จึงจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประกาศฉบับนี้จะครอบคลุมถึงท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้

    1.พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
    2.ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า รวมถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มของบริษัท
    3.ผู้ติดต่อหรือผู้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท

2.นิยาม

    2.1 “บริษัท” หมายถึง บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด ซึ่งกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ของประกาศฉบับนี้
    2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
    2.3 “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทาง การเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    2.4 “ฐานทางกฎหมาย” หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    2.5 “คุกกี้ (Cookies)” หมายถึง เทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรม ที่ใช้เพื่อระบุเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน บนเว็บเซิร์ฟเวอร์และช่วยให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อเข้าใช้เว็บไซต์ในโอกาสต่อไป คุกกี้สามารถจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น ที่อยู่ไอพี (IP Address) ข้อมูลที่ตั้ง ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ เวลาที่ถ่ายโอนข้อมูล การกำหนดของผู้ใช้งาน เป็นต้น คุกกี้อาจถูกจัดเก็บเป็นเอกสารข้อมูลขนาดเล็กในหน่วยความจำของผู้ใช้งานเว็บไซต์ โดยจะส่งไปยังฮาร์ดดิสก์หรือเบราว์เซอร์ของผู้ใช้งานแต่ละรายจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ ทั้งนี้ บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อระบุเครื่องคอมพิวเตอร์และระบุตัวบุคคลของผู้ใช้งานได้ ในกรณีที่ผู้ใช้งานได้ป้อนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเข้าสู่ระบบ
    2.6 “เว็บไซต์” หมายถึง เว็บไซต์ที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเว็บไซต์ดังต่อไปนี้ (1) http://www.pccth.com (2) https://dg.pccth.com ทั้งนี้ ให้รวมถึงเว็บไซต์อื่น ซึ่งบริษัทอาจจัดทำขึ้นในอนาคต
    2.7 “แพลตฟอร์ม” หมายถึง ระบบปฏิบัติการออนไลน์ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรวบรวมและนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการของบริษัท ในรูปแบบของข้อมูลดิจิทัล เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจ โดยให้หมายความรวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เป็นของบริษัท อาทิ เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่บริษัทพัฒนาขึ้น รวมถึงเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ผู้ให้บริการภายนอกเป็นผู้พัฒนาขึ้น เช่น Facebook Page, Line Official Account, Instagram, YouTube Channel เป็นต้น
    2.8 “ผู้ใช้งานเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเข้าใช้หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มใด ๆ ของบริษัท
    2.9 “พันธมิตรทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ขายหรืออาจจะเสนอขายสินค้าและ/หรือบริการ แก่บริษัท หรือได้ลงทะเบียนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
    2.10 “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทนหรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่กระทำการแทนหรือในนามพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
    2.11 “ลูกค้า” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท รวมถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัทด้วย
    2.12 “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้าประเภทนิติบุคคล เช่น ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทนหรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่กระทำการแทนหรือในนามลูกค้าประเภทนิติบุคคล
    2.13 “ผู้ติดต่อหรือผู้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท” หมายถึง บุคคลที่เดินทางเข้ามาติดต่อกับบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในสถานที่ทำการของบริษัท ไม่ว่าเพื่อกิจธุระใด ๆ

3.บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็น เพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้

    3.1 รายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล ชื่อเล่น อายุ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ รูปภาพ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ เป็นต้น
    3.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว อีเมลส่วนตัว Line ID บัญชีผู้ใช้งาน Facebook ข้อมูลชื่อบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม ข้อมูลบุคคลที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
    3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น ตำแหน่งงาน แผนกที่สังกัด สถานที่ทำงาน อีเมลของสำนักงานซึ่งระบุชื่อของท่าน เป็นต้น
    3.4 ข้อมูลตามเอกสารแนบ เช่น นามบัตร สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ หนังสือรับรองบริษัท ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เอกสารสัญญา เอกสารข้อตกลง สัญญาซื้อขายสินค้าหรือบริการ แบบฟอร์มคำขอใช้บริการ แบบฟอร์มยืนยันการรับบริการ เป็นต้น
    3.5 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา หมู่โลหิต ซึ่งปรากฏบนสำเนาบัตรประชาชน ผลวัดอุณภูมิร่างกาย และข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น อาการป่วยและอุณหภูมิร่างกาย เป็นต้น
    3.6 ข้อมูลคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกันจากการเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัท เช่น ไฟล์บันทึกข้อมูลการจราจรคอมพิวเตอร์ซึ่งระบุปัญหาการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ (Log files) ที่อยู่ไอพี (IP Address) ข้อมูลสตรีมคลิก (Clickstream Data) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับติดตามการใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของท่าน เป็นต้น
    3.7 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) วันและเวลาการเข้าติดต่อบริษัท ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง การติดต่อกับผู้ติดเชื้อ หรือไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อ ข้อมูลบันทึกเสียงสนทนาซึ่งบันทึกผ่านระบบของ Call Center หรือระบบ Help Desk คำร้องเรียน ความเห็นของลูกค้า ที่มีต่อสินค้าหรือการให้บริการของบริษัท โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้

4.แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมดังต่อไปนี้

    4.1 จากตัวท่านเอง ผ่านทางวาจา เช่น กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น ผ่านทางเอกสาร เช่น นามบัตร เอกสารสัญญา เอกสารข้อตกลง หนังสือรับรองนิติบุคคล ใบเสนอราคา ใบคำสั่งซื้อ แบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น เช่น อีเมล โทรสาร การกรอกข้อมูลของท่าน บนช่องทางต่าง ๆ ของเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ท่านเข้าใช้งาน เช่น กล่องข้อความ “Contact Us” บนหน้าเว็บไซต์ หรือการลงทะเบียนเพื่อรับจดหมายข่าว (Newsletter) ของบริษัท หรือผ่านช่องทางอื่น ๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Messenger กล่องแสดงความเห็น (Comment) บน Facebook Page และ Instagram Direct Message บนบัญชี Instagram ของบริษัท เป็นต้น รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านเทคโนโลยีซึ่งติดตั้งบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม เพื่อติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัท เช่น การใช้คุกกี้, Google Analytic, Facebook Custom Audience, Customer Data Platform (CDP) หรือ tracking code ประเภท อื่น ๆ เป็นต้น
    4.2 จากแหล่งอื่น ๆ หรือบุคคลที่สาม ได้แก่ นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นนายจ้างหรือผู้ว่าจ้างของท่าน ผู้เสนอแนะบริการหรือสินค้าของท่านให้กับบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น เว็บไซต์) หรือจากการแนะนำโดยบริษัทในเครือหรือในกลุ่มของบริษัท เป็นต้น

5.วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้และ/หรือเปิดเผยภายใต้วัตถุประสงค์และโดยอาศัยฐาน ทางกฎหมายตามที่ปรากฏในประกาศฉบับนี้เท่านั้น หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงบริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอม ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในประกาศฉบับนี้ บริษัทได้ทำการจำแนกวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยแบ่งออกเป็น สองกลุ่ม ได้แก่ วัตถุประสงค์เฉพาะ ซึ่งใช้บังคับกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“วัตถุประสงค์เฉพาะ”) และวัตถุประสงค์ทั่วไป ซึ่งจะใช้บังคับกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภท (“วัตถุประสงค์ทั่วไป”)

    5.1 วัตถุประสงค์เฉพาะ
      5.1.1 พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1. การติดต่อสื่อสารและดำเนินการต่าง ๆ เพื่อเจรจาก่อนการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่าน กระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง เช่น การนัดประชุม การรับเอกสารเกี่ยวกับการเสนอราคา และประกวดราคา การทำคำสั่งซื้อก่อนเข้าทำสัญญา การเจรจาเพื่อเข้าทำสัญญาและการตกลงขอบเขตของข้อสัญญา ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นผู้เข้าทำสัญญาโดยตรง)
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจ (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือ ในนามของพันธมิตรทางธุรกิจ)
2. การเข้าทำสัญญา รวมถึงการดำเนินการและตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ ใบเสนอราคา และ เอกสารอื่นๆ เป็นต้น การเข้าทำสัญญาให้รวมถึงการติดต่อประสานงานกับท่าน ในเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสัญญาด้วย เช่น การขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ ในสัญญา การต่ออายุสัญญา เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาโดยตรง)
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจ (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของพันธมิตรทางธุรกิจ)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3. การลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีพันธมิตรทางธุรกิจ โดย การกรอกข้อมูลลงในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ แอปลิเคชันของบริษัท เช่น ระบบทะเบียนผู้ขายสินค้า และบริการ (Approved Vendor List: AVL) แบบฟอร์ม ที่บริษัทจัดส่งให้ เพื่อการบริหารจัดการและอนุมัติเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการโดยบริษัท รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการด้านการเงินและจัดทำบัญชี ของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
4.การปฏิบัติตามสัญญา การติดต่อสื่อสารและดำเนินการเพื่อการรับสินค้าหรือบริการตามสัญญา รวมถึงการติดตามสินค้าหรือบริการจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับลูกค้าของบริษัท ในกรณีจำเป็นเพื่อการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาโดยตรง)
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจ (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของพันธมิตรทางธุรกิจ)
5. การดำเนินการชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการแก่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการของบริษัทตามสัญญา รวมถึงการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้รับชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการจากบริษัทก่อนการการดำเนินการชำระโดยบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาโดยตรง)
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจ (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของพันธมิตรทางธุรกิจ)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
6. การบันทึก การจัดทำ การจัดเก็บเอกสารทางบัญชีและภาษี ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศ (ถ้ามี) กรณีเก็บไว้เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การเก็บเอกสารและเปิดเผยต่อหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบบัญชีและภาษีรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานภายนอก เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่างๆ ที่ปรึกษาบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
7. การตลาดและการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท เช่น การเก็บภาพของผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ เช่น สื่อภายในบริษัท สื่อสังคม บทสัมภาษณ์ ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีเผยแพร่ตามสื่อสังคมที่ผู้เข้าร่วมไม่สามารถคาดหมายถึงการเผยแพร่นั้น)
      5.1.2 ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า รวมถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มของบริษัท
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1. การติดต่อสื่อสารและดำเนินการต่าง ๆ เพื่อการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท ซึ่งรวมถึง การนำเสนอสินค้าหรือบริการก่อนการขายหรือการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้บริษัทเป็นผู้มีคุณสมบัติในการที่จะขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า เช่น การดูสถานที่ก่อนการเสนอราคา หรือสาธิตสินค้าหรือบริการก่อนการเสนอราคา (Proof of Concept : POC) หรือการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการ เช่น การเตรียมเสนอราคา หรือจัดทำข้อเสนอของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
-ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2. การเข้าทำสัญญาและการปฏิบัติตามสัญญากับลูกค้า เช่น การติดต่อสื่อสารงาน การดำเนินการตามคำสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การรับชำระค่าสินค้าหรือบริการ การเก็บความต้องการเพื่อพัฒนาระบบงานที่ระบุในสัญญา การจัดส่งและการติดตั้งสินค้าหรือบริการในสถานที่ของลูกค้า หรือสถานที่อื่นที่ลูกค้ากำหนด การทดสอบระบบงานก่อนการส่งมอบ การให้บริการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้สินค้าหรือระบบงานคอมพิวเตอร์ที่บริษัทพัฒนาให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการให้บริการหลังการขาย เช่น การให้บริการบำรุงรักษาซ่อมแซมแก้ไขสินค้าหรือการแก้ไขระบบงานคอมพิวเตอร์ที่บริษัทพัฒนาให้แก่ลูกค้า การรับคำติชมหรือคำร้องของลูกค้าผ่านการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า การให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า เป็นต้น รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการติดตั้งสินค้า พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นเพื่อการดำเนินการตาม วัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา (กรณีที่ลูกค้าซื้อสินค้า หรือรับบริการจากบริษัทโดยตรง)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3.การลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีลูกค้าโดยการกรอกข้อมูลลงในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและแอปพลิเคชันของบริษัท เช่น ระบบ Microsoft Dynamics AX2012 เป็นต้น เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้า การให้บริการ และการจัดทำบัญชีของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
4.การติดต่อสื่อสารเพื่อนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้จัดจำหน่ายสินค้า ตลอดจนผู้ให้บริการของบริษัท เพื่อดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นต่อไป ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
5.การเก็บรวบรวมคำถาม คำร้องเรียน และคำติชมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า Call Center Help Desk เว็บไซต์ แพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Line และผู้ให้บริการเก็บรวบรวมข้อมูลภายนอกที่บริษัทว่าจ้าง ตลอดจนการตอบคำถามหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับคำร้องเรียนและความคิดเห็นของลูกค้า ผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม ที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัท หรือเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการให้บริการของบริษัท ในการนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการ และบริษัทในกลุ่มในเครือของบริษัท เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ ในการติดต่อผ่าน Call Center หรือ Help Desk บริษัทอาจทำการบันทึกข้อมูลเสียงสนทนาเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น และเพื่อใช้อ้างอิงในการให้บริการหรือบริการ หลังการขายที่ท่านร้องขอ ตลอดจนเพื่อเก็บเป็นหลักฐานกรณีการร้องเรียนที่อาจนำไปสู่การเรียกร้องหรือฟ้องร้องค่าเสียหายกับบริษัทหรือโดยบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้กับบริษัท ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (กรณีการบันทึกเสียงสนทางทาง Call Center หรือระบบ Help Desk)
6.การตลาดและการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท เช่น การเก็บภาพของผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ เช่น สื่อภายในบริษัท สื่อสังคม บทสัมภาษณ์ข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีนำภาพผู้เข้าร่วมกิจกรรมไปเผยแพร่ตามสื่อสังคมที่ผู้เข้าร่วมไม่สามารถคาดหมายถึงการเผยแพร่นั้น)
7. การจัดกิจกรรมสัมมนา หรือดูงานทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไปยังหน่วยงานภายนอกเพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เช่น การจองโรงแรมการจองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการขอวีซ่าสำหรับกรณีการสัมมนาหรือดูงานในต่างประเทศ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
-ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
8. การบันทึก การจัดทำ การจัดเก็บเอกสารทางบัญชีและภาษี ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศ (ถ้ามี) กรณีเก็บไว้เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การเก็บเอกสารและเปิดเผยต่อหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบบัญชีและภาษีรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานภายนอก เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่างๆ ที่ปรึกษาบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้ให้บริการคลังเก็บเอกสาร เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
-เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
-ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
      5.1.3 ผู้ติดต่อหรือผู้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1.บันทึกและจัดเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่บริษัทติดตั้งไว้บริเวณอาคารสำนักงาน และสถานที่ต่าง ๆ ของบริษัท ตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุอันตรายอันอาจเกิดขึ้นต่อผู้เข้าใช้อาคารสำนักงาน และสถานที่ หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
2. ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการรักษาความปลอดภัย ป้องกันอาชญากรรม หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ รวมถึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเปิดเผยต่อพนักงานตำรวจเพื่อการตรวจสอบกรณีมีเหตุการณ์อันไม่ชอบด้วยกฎหมายเกิดขึ้นในบริเวณบริษัท รวมถึงการเปิดเผยต่อผู้เสียหายอื่น (ถ้ามี) การปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมาย การริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่นๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือบุคคลอื่น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3.การตรวจสอบข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพ ของท่าน เช่น การเก็บรวบรวมผลการตรวจสุขภาพ การวัดอุณหภูมิร่างกาย เป็นต้น เพื่อดำเนินการป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่กระจายเป็นวงกว้าง รวมถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดกับชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคลที่เข้ามาภายในบริเวณบริษัท โดยอาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้หน่วยงานภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว เช่น กรมควบคุมโรค สถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม
    5.2 วัตถุประสงค์ทั่วไป
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1. การเก็บข้อมูลการติดต่อสื่อสารของท่านต่อไปบนฐานข้อมูลบริษัทเพื่อการติดต่อทางธุรกิจในอนาคต รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บริษัทในกลุ่มในเครือและบริษัทแม่ เพื่อการติดต่อและสานสัมพันธ์เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทในกลุ่ม ในเครือ และบริษัทแม่
2. การจัดการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและโครงสร้างของบริษัท เช่น การขออนุญาตประกอบธุรกิจกับหน่วยงานรัฐ การจัดการด้านระบบและฐานข้อมูล การตรวจสอบภายใน การซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือบุคคลอื่น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3. การปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมาย การริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาท นอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

6.ผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของพันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อติดต่อสื่อสารในการเข้าทำสัญญาหรือดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน หรือบุคคล หรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง หรือสัญญาที่บริษัทมีกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือสัญญาที่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นมีกับท่านหรือบุคคลหรือ นิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล แก่บริษัท ท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้างอาจไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อสื่อสารเพื่อทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาได้ ในบางกรณีอาจส่งผลให้บริษัท หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่มีสัญญากับท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง ไม่สามารถเข้าผูกพันหรือปฏิบัติตามสัญญาได้ นอกจากนี้ ในบางกรณีบริษัทยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัท ท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้างอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับได้ในบางกรณี
    6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท
      6.2.1 ข้อมูลคุกกี้ (Cookies) การที่ท่านไม่ให้ความยินยอมในการติดตั้งคุกกี้หรือปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภท อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ และอาจทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวก หรือ ไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานในบางส่วนของเว็บไซต์นี้ได้
      6.2.2 ¬ข้อมูลที่เก็บจากเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัท บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังกล่าวของท่าน เพื่อวางแผนและทำการตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย การที่ท่านไม่ให้ความยินยอมในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจส่งผลให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารบางประการที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
      6.2.3 ข้อมูลการติดต่อและข้อความที่ติดต่อของผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัท การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นบางประการแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถติดต่อท่านกลับได้ หรือไม่สามารถตอบกลับคำถามของท่านหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ครบถ้วนตามที่ท่านร้องขอ
    6.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ติดต่อหรือผู้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจสอบและระบุตัวตนของท่านตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท บริษัทอาจตัดสินใจไม่ให้ท่านเข้าไปในสถานที่ของบริษัทได้

7.บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใครบ้าง

    7.1 แผนกหรือส่วนงานต่าง ๆ ในบริษัท และบริษัทในเครือ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 4 ด้านบน ให้กับแผนกหรือส่วนงานต่าง ๆ ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการดังกล่าว รวมถึงเปิดเผยข้อมูลของท่านไป ยังบริษัทในกลุ่ม ในเครือ โดยสามารถอาศัยความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้แก่บริษัทเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
    7.2 ผู้ให้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัท หรือเพื่อช่วยในการจัดหาหรือจัดให้มีสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ
      (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์สื่อดิจิทัล แพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
      (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง
      (3) ผู้ให้บริการการเรียน การสอน การฝึกอบรม การจัดสอบ และวิทยากร
      (4) บริษัทที่ให้บริการด้านงานกิจกรรม
      (5) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์
      (6) ผู้ตรวจสอบบัญชี
      (7) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชีและ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท
      (8) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือ ทำลายเอกสาร
      (9) ผู้ให้บริการด้านการจัดหางาน และการบริหารทรัพยากรบุคคล
      (10) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร
      (11) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอกในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    7.3 พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น หรือลูกค้าของบริษัท บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจ และให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา หน่วยงานหรือสถาบันจัดอบรมความรู้หรือวิชาชีพ บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ การวิจัย และการสำรวจ
    7.4 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมายซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล (เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรมสรรพากร และ/หรือ หน่วยงานอื่น ๆ) หรือบุคคลอื่น หากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด
    7.5 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน บริษัทย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้า ของข้อมูล
    7.6 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทอาจจะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อรับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น บริษัทอาจจะต้องได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย

8.บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเพียงใด

    8.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของพันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านหรือบุคคลที่ท่านกระทำการแทนกับบริษัทสิ้นสุดลง ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแต่ไม่ได้เข้าผูกนิติสัมพันธ์กับท่านหรือบุคคลที่ท่านกระทำการแทน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
    ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารวมถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แพลตฟอร์มของบริษัท
      8.2.1 ในกรณีที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับท่านหรือลูกค้าที่ท่านกระทำการแทน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่าน หรือลูกค้าที่ท่านกระทำการแทนกับบริษัทสิ้นสุดลง
      8.2.2 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแต่ไม่ได้เข้าผูกนิติสัมพันธ์กับท่าน หรือลูกค้าที่ท่านกระทำการแทน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
      8.2.3 ในกรณีข้อมูลการบันทึกเสียงสนทนากรณีที่ท่านติดต่อบริษัทผ่านระบบ Call Center / Help Desk บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
      8.2.4 ในกรณีข้อมูลจากการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ แพลตฟอร์มของบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แต่ละประการ เช่น กรณีการเก็บข้อมูลผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ บริษัทอาจเก็บตลอดระยะเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรม โดยบริษัทอาจแจ้งให้ท่านทราบเป็นครั้งคราวเมื่อมีการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะไม่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่า 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากท่าน
    8.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ติดต่อหรือผู้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาความปลอดภัยและป้องกันโรคติดต่อ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ท่านได้เข้ามาในสถานที่ของบริษัท
    อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนอาจถูกเก็บรักษาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ เพื่อติดตามทวงหนี้ และการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท โดยในกรณีดังกล่าวข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาตลอดระยะเวลาที่มีความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

9. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ ซึ่งท่านอาจขอให้สิทธิต่อบุคคลที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ภายในเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท โดยสิทธิดังกล่าวมีดังนี้

    9.1สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการ เพิกถอนความยินยอมนั้น
    9.2 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้
    9.3 สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
    9.4 สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
    9.5 สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
    9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
    9.7 สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
    9.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัทซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับ คำตอบสนองดังกล่าว

10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว หากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ

แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights Request Form)

Professional Computer Co.,Ltd. (PCC)

บริษัท โปรเฟสชั่นนัล คอมพิวเตอร์ จำกัด

เลขที่ 102/99 ถนน ณ ระนอง แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

โทรศัพท์ 02 106 6000

www.pccth.com


เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 102/99 ถนน ณ ระนอง แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

Email: dpo@pccth.com